ทำความรู้จักวัสดุที่นิยมใช้ทำเปลือกนอก 

(Oversheath หรือ Jacket) 

ของสายไฟฟ้า

นอกจากฉนวนที่เป็นส่วนประกอบของสายไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าหรือการลัดวงจรแล้ว ยังมีส่วนประกอบของสายไฟฟ้าที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือ “เปลือกนอก” ที่ช่วยในการปกป้องสายไฟฟ้าอีกด้วย แล้วเปลือกของสายไฟฟ้ามีแบบใดบ้าง และแต่ละแบบมีคุณสมบัติอย่างไร วันนี้เฟ้ลปส์ ดอด์จ จะมาอธิบายให้ฟังค่ะ

เปลือกนอก (Oversheath หรือ Jacket) เป็นชั้นห่อหุ้มสายไฟฟ้าชั้นนอก ทำหน้าที่ป้องกันสายไฟฟ้าทั้งจากการติดตั้งสายและจากสภาพแวดล้อมที่สายติดตั้งใช้งานอยู่ เช่น การเสียดสีและขูดขีดจากการดึงหรือลากสาย การกระแทก กดทับ การกัดกร่อนจากสภาพอากาศ ความชื้น รังสี UV สารเคมี 

นอกจากนี้ สายบางชนิดอาจมีเปลือกหลายชั้น ซึ่งจะเรียกเป็นเปลือกใน (Inner sheath) และเปลือกนอก (Oversheath หรือ Outer sheath)

สำหรับวัสดุที่ใช้ในการทำเปลือกสายไฟฟ้า มีด้วยกันหลายชนิด และคุณสมบัติก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งวัสดุที่นิยมใช้มีดังนี้ค่ะ 

      1.เปลือกนอกที่ใช้วัสดุ  PVC (Polyvinylchloride) นิยมใช้เป็นเปลือกสำหรับสายไฟฟ้าโดยทั่วไปทั้งสายที่ใช้ภายในและภายนอกอาคาร มีความนิ่มและอ่อนตัวได้ดี PVC มีคุณสมบัติต้านทานการลุกลามไฟในตัว และยังมีเกรด FRPVC กรณีใช้กับสายที่ต้องการคุณสมบัติต้านทานการติดไฟสูงเป็นพิเศษ เช่น สายที่ผ่านการทดสอบต้านเปลวเพลิง Flame Retardant test ตามมาตรฐาน IEC 60332-3

      2.เปลือกนอกที่ใช้วัสดุ  PE (Polyethylene) นิยมใช้เป็นเปลือกนอกของสายไฟฟ้าที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น สายไฟฟ้าแรงดันสูงที่ติดตั้งใต้ดิน เนื่องจากเปลือก PE มีความเหนียวและแข็งแรง ทนต่อการขูดขีดและแรงกระแทกกดทับได้ดี และป้องกันการซึมผ่านของน้ำและความชื้นได้ดี แต่มีข้อเสียคือติดไฟและเปลวไฟลุกลามได้ จึงไม่นิยมใช้กับสายภายในอาคาร 

      3.เปลือกนอกที่ใช้วัสดุ  LSHF (Low Smoke Halogen Free) พัฒนาขึ้นสำหรับสายไฟฟ้าที่ใช้ติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยมากเป็นพิเศษเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ เช่นอาคารเพื่อการสาธารณะ อาคารชั้นใต้ดิน เป็นต้น เนื่องจากเปลือก LSHF มีคุณสมบัติต้านทานการลุกลามไฟ ควันน้อยและไม่ปล่อยก๊าซที่มีฤทธิ์เป็นกรดเมื่อถูกไฟไหม้ แต่มีข้อเสียคือ ความแข็งแรงไม่สูงมากเท่า PVC และ PE จึงมีโอกาสชำรุดฉีกขาดจากการติดตั้งได้มากกว่า